เทคนิคผ่อนบ้านหมดไว

การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ แต่สำหรับบางท่านก็อาจจะพูดว่า การไม่สร้างหนี้จะทำให้เราไม่มีโอกาสให้ได้ทรัพย์สินมา นานาจิตตัง แต่เมื่อพูดถึงเรื่องหนี้แล้ว ส่วนใหญ่ หนี้ที่ใคร ๆ มักจะมีก็จะเป็นหนี้บ้าน เพราะใคร ๆ ก็อยากมีบ้าน สำหรับใครก็ตามที่มีหนี้แล้วก็มักจะอยากปลดหนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งมนุษย์ผ่อนอย่างเรา ๆ ต้องผ่อนบ้านทุกเดือน ๆ เวลาได้ใบเสร็จมาแล้วเห็นเงินที่จ่ายไปโดนหักดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้นแล้วก็แสลงใจ ใคร ๆ ก็ไม่อยากให้เป็นภาระในระยะยาว อยากให้จบเร็ว ๆ เหมือนได้อิสรภาพกลับคืนมาอีกครั้ง วันนี้ผู้เขียนจึงจะมาบอกเทคนิคสำหรับคนมีหนี้บ้าน ว่าทำยังไงให้ปลดแอกได้ไว ๆ กันค่ะ

  • ผ่อนเพิ่มในแต่ละเดือน สมมติเราจ่ายผ่อนเพิ่มสองเท่าของเงินผ่อนในแต่ละเดือน เช่น เป็นหนี้อยู่ 1,800,000 บาท ดอกเบี้ย 5% ธนาคารให้ผ่อนเดือนละ 12,600 บาท หากเราผ่อนเพิ่มเป็น 25,200 บาท ต่อเดือน เราจะสามารถผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้นจาก เดิม 2 ปี เหลือเพียง 6.8 ปี แถมดอกเบี้ยรวมจ่ายลดจากเดิม 648,645 บาท เหลือแค่ 258,864 บาท ประหยัดดอกเบี้ยไปได้ถึงเกือบ 400,000 บาท (389,781 บาท) บางคนบอกว่าแค่จะผ่อนจ่ายหนี้ตามสัญญาก็แสนจะลำบาก ข้อควรระวังในการเลือกซื้อบ้านคือเราไม่ควรเลือกซื้อบ้านที่ราคาสูงเกินกว่าที่จะผ่อนไหว แต่ถ้าใครทำไปแล้วก็ต้องหารายได้เพิ่มนะคะ 

  • เอาเงินก้อนใหญ่ไปโปะเพิ่ม หากเรามีเงินก้อนที่ได้เพิ่มมาจากรายได้ปกติ เช่น โบนัส คอมมิชชั่น ขายบ้านเก่าได้ เราควรนำเงินนั้นแบ่งไปโปะบ้านทุกครั้งที่มีโอกาส จากตัวอย่างเดิม ถ้าโปะเพิ่มปีละ 100,000 บาท ส่วนเดือนที่เหลือก็ผ่อนเท่าเดิมเดือนละ 12,600 บาท และทำทุกสิ้นปี เราจะสามารถผ่อนบ้านได้เร็วขึ้นจากเดิม 16.2 ปี เหลือ 8 ปี และดอกเบี้ยลดลงเหลือ 363,333 บาท ประหยัดดอกเบี้ยไป 285,812 บาท แน่นอนปลดหนี้ได้ช้ากว่าวิธีแรก เพราะการทยอยจ่ายทุกเดือนทำให้เงินต้นทยอยลดลงทุกเดือน จำนวนดอกเบี้ยจึงลดลงทุกเดือน แล้วโปะเมื่อไหร่ดี... วันไหนของเดือนดี… แนะนำว่ามีเมื่อไหร่จ่ายไปเลย เพราะดอกเบี้ยคิดเป็นวันอยู่แล้ว บางท่านบอกให้จ่าย ณ วันแรกของเดือน เงินที่จ่ายจะได้ไม่โดนคิดดอกเบี้ย แต่จริง ๆ แล้วเราก็โดนคิดดอกเบี้ยบนยอดจ่ายปกติอยู่ดี 

  • โปะตอนช่วงปีแรก ๆ ดอกเบี้ยต่ำ เวลาที่เรากู้ธนาคารซื้อบ้าน ช่วงปีแรก ๆ ของสัญญากู้มักจะมีโปรโมชั่นให้ดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำ หลังจากนั้นดอกเบี้ยก็จะพุ่งสูงตาม MRR ฉะนั้นช่วงที่เราควรโปะให้ได้มากที่สุดคือช่วงปีแรก ๆ เพื่อจะได้ประหยัดดอกเบี้ย เงินที่โปะลงไปส่วนใหญ่จะไปลดเงินต้นมากกว่าไปจ่ายดอกเบี้ย ถ้าเทียบกับช่วงที่ดอกเบี้ยสูงเงินที่เราโปะไปอาจจะไม่ทำให้เงินต้นลดสักเท่าไหร่เลย

  • Refinance การทำ Refinance คือการยื่นขอธนาคารให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งโดยปกติสามารถทำได้ทุก ๆ 3 ปี แต่ทั้งนี้ต้องดูรายละเอียดในสัญญาของแต่ละธนาคารซึ่งอาจแตกต่างกัน หากเรา Refinance ก่อนกำหนดในสัญญาเงินกู้ เราก็จะต้องเสียค่าปรับ ในการขอ Refinance แต่ละครั้งเราก็ต้องคำนวณค่าธรรมเนียมที่จะเกิดขึ้น เช่น ค่าจดจำนอง ค่าประเมินทรัพย์ใหม่ ซึ่งอาจจะไม่คุ้มกับดอกเบี้ยที่จะประหยัดได้ ทั้งนี้ หากเรามีประวัติการผ่อนจ่ายชำระดี ไม่เคยเบี้ยวหนี้ย้อนหลัง 3 ปี เราก็อาจจะสามารถยื่นขอกับทางธนาคารเจ้าหนี้เดิมให้ลดดอกเบี้ย บางครั้งอาจจะต่ำกว่าธนาคารที่ยื่นข้อเสนอให้ Refinance ก็ได้

เห็นว่าทุกวิธีที่เล่ามานี้ช่วยทำให้เราผ่อนบ้านได้หมดเร็วยิ่งขึ้น แต่จะเลือกวิธีไหนก็ขึ้นอยู่แล้วแต่สถานการณ์ของแต่ละท่าน หรืออาจจะทำแบบผสมผสานหลาย ๆ วิธีก็ได้ แต่ต้องอย่าลืมว่าสำคัญที่สุดไม่ว่าจะเลือกวิธีใด เราต้องไม่ลืม Refinance ทุก ๆ 3 ปี เพราะจะทำให้ดอกเบี้ยอยู่ในช่วงที่ไม่สูงจนเกินไป

ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่เราจะเร่งโปะหนี้บ้าน เราจะต้องวางแผนอย่างดี เราต้องไม่ลืมที่จะต้องแบ่งเงินไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน และแบ่งเงินออมลงทุนสำหรับเป้าหมายอื่น ๆ ไม่ใช่ทุ่มหมดตัวจนไม่เหลือสภาพคล่องไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือเป้าหมายอื่น ๆ ที่พอเกิดเหตุฉุกเฉินต้องกลับไปขอกู้เพิ่ม ที่สำคัญ บ้าน ถึงแม้ว่ามูลค่ามักจะเพิ่มมากขึ้น แต่สภาพคล่องค่อนข้างต่ำ ฉะนั้นการวางแผนการผ่อนจ่าย แบ่งเงินถือว่าสำคัญมาก ๆ ทีเดียวค่ะ

ศิริรัตน์ ตานะเศรษฐ CFP®

Senior Financial Planner

บทความอื่นๆ