ออมแบบคนโสด

วันนี้เลือกเขียนถึงคนโสดกับการออม เพราะปัจจุบันหันไปทางไหนก็มีแต่คนโสด ไม่ว่าจะโสดแต่กำเนิด หรือ การโสดจากการหย่าร้างหรือเป็นหม้าย สภาพสังคมปัจจุบันผู้หญิงมีความสามารถมากขึ้น บางครั้งความอดทนคนเราก็อาจน้อยลงกว่าสมัยก่อน หรือด้วยสภาพสังคมแวดล้อมที่เปลี่ยนไปคนโสดจึงมากขึ้นเรื่อย ๆ จากสถิติพบว่า 40% ของคนไทยวัยทำงานเป็น “โสด” หรือ ถ้าคิดเป็นตัวเลข ปัจจุบัน ถ้านับเฉพาะคนวัยทำงานในไทย ที่ถือครองสถานภาพโสดถึง 17 ล้านคน โดยอัตราส่วน พบหญิงโสด 100 คน  ต่อผู้ชายโสด 70 คน  ที่น่าแปลกใจไปกว่านั้น ถึงแม้ว่ากรุงเทพจะเป็นมหานครที่มีคนไหลเวียนเข้ามาทำงาน หรือ ศึกษา หรือ อยู่อาศัยมากมาย ซึ่งควรจะเอื้ออำนวยเสนอโอกาสให้หนุ่มสาวเจอกันมากขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่า 60% ของคนทำงานในกรุงเทพ ล้วนเป็น “โสด” 

จึงไม่น่าแปลกที่ดิฉันในฐานะนักวางแผนการเงิน สถิติผู้รับคำปรึกษามักจะมีคนโสดมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีคนโสดจำนวนไม่น้อยเลยที่มักละเลยเรื่องการออมเพื่อตนเอง คนโสดส่วนใหญ่ที่พบเจอมักจะเสียเงินส่วนใหญ่ไปเพื่อญาติพี่น้อง หลาน โดยลืมนึกถึงตนเอง ถือว่าเป็นสถิติที่ไม่น่าแปลกใจ เพราะในสหรัฐอเมริกา มีการทำวิจัยออกมาแล้วว่า คนโสดมักมีอัตราการออมน้อยกว่าคนแต่งงานแล้ว อาจจะเป็นเพราะการที่โสดนั้นแสนสบาย สามารถใช้ชีวิตไปได้เรื่อย ๆ โดยยังไม่มีภาระใดที่ต้องกังวลเท่ากับคนแต่งงานมีลูก

จริง ๆ แล้ว การบริหารการออมเงินนั้นล้วนมีความสำคัญทั้งกับคนโสดและไม่โสด เพราะการดำเนินชีวิตของคนเรายังต้องใช้เงินเป็นตัวตอบโจทย์ต่าง ๆ ที่สำคัญในชีวิต การโสดนั้นเลือกไม่ได้ แต่การโสดแล้วมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่เกิดจากการบริหารการเงินที่ดีนั้นเป็นสิ่งที่เลือกได้

วันนี้ผู้เขียนอยากนำเสนอเคล็ดลับแนะนำการบริหารการเงินแบบคนโสด ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ง่าย ๆ

  1. จดค่าใช้จ่ายการอยู่คนเดียวมักจะไม่ยาก…ที่จะจดว่าในแต่ละวันเราต้องเสียเงินไปกับสิ่งใดบ้าง สาเหตุที่อยากให้จด จะได้ทราบว่าเรามักเสียค่าใช้จ่ายอะไรออกไป และมีค่าใช้จ่ายส่วนใดที่เราสามารถลดไปได้บ้าง โดยส่วนใหญ่แล้วการอยู่คนเดียว มักจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวสูงกว่าการอยู่กับครอบครัว หรืออยู่กับพ่อแม่ เพราะมีค่าใช้จ่ายบางประเภทที่มักแพงเกินไปกับการใช้และจ่ายคนเดียว เช่น ค่าอินเตอร์เนตในบ้าน ค่าเคเบิ้ลทีวี ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าแอร์ ฯลฯ

  2. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงเมื่อเราจด เราจะทราบว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนใดที่สามารถลดได้ ตัวอย่างเช่น คนโสดส่วนใหญ่มักไม่ทำอาหารกินเองที่บ้าน แต่มักซื้อทานเอง หรือ ออกไปทานนอกบ้าน ถือเป็นค่าใช้จ่ายหลักที่ต้องเสียไป แนะนำลองทำอาหารทานเอง แล้วทำทีละมาก ๆ เพื่อแบ่งไว้กินได้หลายมื้อ หรือเอาไปแลกเปลี่ยนกับเพื่อนบ้านคนอื่น ๆ ก็อาจจะเป็นไอเดียที่ดี
     
  3. เพิ่มรายได้จากทรัพย์สินที่มีอยู่แล้วส่วนใหญ่คนโสดมักมีความสามารถในการหารายได้มาก เพราะมีเวลาทุ่มเทให้กับการทำงานมากกว่าคนมีครอบครัวแล้ว จึงทำให้ไม่แปลกนักที่คนโสดจะมีสินทรัพย์ส่วนตัวมาก ลองหาวิธีสร้างรายได้จากสินทรัพย์ที่มีอยู่ บางท่านมีบ้านหลังใหญ่ มีคอนโดหลายห้อง มีพื้นที่ส่วนเกินมาก อาจจะลองแบ่งพื้นที่บ้านบางส่วนให้เช่าเพื่อหารายได้เพิ่มเติม หรืออาจหารายได้จากรถยนต์ที่มีอยู่แล้ว เช่น Carpool UBER

  4. ออมเงินฉุกเฉินหากเราโสดจริง อยู่คนเดียว แล้วเกิดกรณีฉุกเฉิน เช่น ตกงาน เงินก้อนนี้จะคอยช่วยเหลือตัวเราเองให้อยู่รอด ผิดกับคนที่แต่งงานแล้ว อาจมีแหล่งรายได้สำรอง หากฉุกเฉินเกิดตกงาน คงไม่เกิดเหตุการณ์ที่คู่สมรสจะตกงานพร้อม ๆ กัน แต่อย่างไรก็ตามคนแต่งงานก็ยังคงต้องมีเงินออมฉุกเฉินเช่นกัน เงินออมฉุกเฉินควรมีจำนวนพอดี ๆ แต่ไม่ควรมีมากจนเกินไป เพราะมันจะกลายเป็นเงินขี้เกียจ โดยปกติ จำนวนเงินออมฉุกเฉินที่พอเหมาะคือเงินค่าใช้จ่าย 3-6 เดือนของค่าใช้จ่ายของเรา เช่น เรามีค่าใช้จ่ายทั้งหมดเดือนละ 20,000 บาท เงินออมฉุกเฉินของเราก็ควรจะมีประมาณ 60,000- 120,000 บาท

  5. ออมเงินเพื่อเป้าหมายใหญ่ ๆแน่นอน...หากคนโสดต้องการจะซื้อบ้าน หรือรถยนต์เป็นของตนเองอาจจะยากซักหน่อย เพราะต้องออมคนเดียว หากเป้าหมายใหญ่เกินไปอาจจะเกินกำลังตนเอง แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป หากมีการวางแผนการออม และมีวินัยในการออมที่ดี ควรตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน แล้วออมแบบสม่ำเสมอ หากเป็นไปได้ทำให้เป็นอัตโนมัติ เช่น การตัดเงินออมออกจากบัญชีเงินเดือน จะทำให้เป้าหมายสำเร็จได้ง่ายขึ้น

  6. ออมเงินเพื่อเกษียณเงินเกษียณสำคัญมากสำหรับทุกคน และยิ่งสำคัญมาก ๆ สำหรับคนโสด เพราะหากยามแก่เฒ่า ไม่มีครอบครัวดูแล อย่างน้อยหากเราเตรียมเงินเกษียณไว้อย่างเพียงพอ เราก็จะสามารถดูแลตัวเราเองได้ สำคัญมากโดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงโสดที่มักต้องเตรียมเงินมากกว่าผู้ชายโสด เพราะอายุขัยของผู้หญิงนั้นมากกว่าผู้ชาย ตามธรรมชาติผู้หญิงมักอายุยืนกว่าผู้ชาย บอกให้เป็นกำลังใจนะคะ คนโสดวางแผนเกษียณได้ง่ายกว่าคนที่แต่งงานมีลูกนะคะ เพราะ คนที่แต่งงานมีลูกนั้นมีค่าใช้จ่ายมากมายที่ยังต้องเตรียมสำหรับในอนาคต แต่คนโสดมีเพียงเป้าหมายเดียวชัดเจน “เกษียณสุข” น่าจะทำได้ไม่ยากค่ะ ปัจจุบันมีโปรแกรมที่ช่วยคำนวณเป้าหมายกองทุนเกษียณของตนเอง แล้วเราสามารถคิดคำนวณออกมาได้เลยนะคะว่าในช่วงเวลาที่เหลืออยู่เราต้องออมเท่าไหร่ต่อเดือน

  7. ออมเงินเพื่อค่ารักษาพยาบาลในระยะยาวการแก่แบบตัวคนเดียว ควรมีการเตรียมตัวอย่างดี การแก่มาพร้อมกับร่างกายที่เสื่อมโทรมลง ไม่มีใครที่แก่แล้วไม่เจ็บ แต่การแก่ทำให้เรามีรายได้น้อยลง หรือไม่มีเลย และสวัสดิการที่น้อยลงเรื่อย ๆ หากไม่มีการเตรียมการไว้ และหวังพึ่งแต่สวัสดิการรัฐบาล ก็เป็นไปได้สูงว่าจะไม่เพียงพอ ด้วยสภาวะประชากรไทยที่อัตราการเกิดน้อยลงเรื่อย ๆ ตอนสมัยเราแก่ ประเทศชาติน่าจะมีคนวัยทำงานเสียภาษีให้รัฐน้อยลงมากแต่มีผู้สูงวัยให้ดูแลมากมาย ดังนั้น หากเราอยากเตรียมพร้อมสวัสดิการให้ตนเอง... แนะนำให้ลองตรวจสอบสวัสดิการที่ตนเองมีอยู่ว่ามีเพียงพอกับวิถีชีวิตของเราไปจนยามแก่ชราหรือไม่ หากไม่ก็แนะนำให้เตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น การซื้อประกันสุขภาพที่คุ้มครองในระยะยาว

  8. ทัศนคติการออมที่ดี สำคัญหากบางท่านเริ่มมีอายุมากแล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มออมเลย อย่าเพิ่งยอมแพ้ รู้ช้า ยังดีกว่าไม่เคยรู้เลย แต่ถ้ารู้แล้วไม่เริ่มออม ก็น่าเสียดายค่ะ

  9. การหาคนแนะนำปัจจุบันเครื่องมือทางการเงินซับซ้อนขึ้นมาก อาจจะง่ายขึ้นหากเราสามารถเลือกใช้บริการจากคนที่มีความรู้แนะนำ

หวังว่าคนโสดทุกท่านนอกจากจะมีความสุขในปัจจุบันแล้ว แน่นอนหากวางแผนการออมให้กับตนเองเป็นอย่างดี เมื่อแก่แล้วต่อให้ ”โสด” ก็สุขได้แน่นอนค่ะ ขอให้คนโสดทุกท่านมีความสุขกับการออมเพื่อตนเองค่ะ

ศิริรัตน์ ตานะเศรษฐ CFP®

Senior Financial Planner

บทความอื่นๆ